คุณแม่มือใหม่ต้องรู้! หลังผ่าคลอดต้องดูเเลตัวเองอย่างไรให้เเผลหายเร็ว ไม่เป็นคีลอยด์

        ผ่าคลอด ถือเป็นการผ่าตัดครั้งใหญ่ที่คุณแม่หลายคนเป็นกังวล เพราะมีหลายอย่างที่จะต้องเตรียมตัว โดยเฉพาะการดูแลแผล การ ดูแลตัวเองหลังผ่าคลอด เพราะหากไม่ดูแลให้ดีก็จะเสี่ยงทำให้แผลอักเสบ หรือเกิดแผลเป็นได้ ซึ่งเป็นปัญหากวนใจตามมา คุณแม่มือใหม่ จึงห้ามพลาดบทความนี้ เพราะแอดมินมีเทคนิคดูแลและรักษาให้แผลหายไวอย่างถูกวิธีมาบอกต่อ ถ้าคุณแม่อยากรู้ว่าต้องทำอย่างไร และทาน อาหารเสริมหลังผ่าคลอด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และลดความเสี่ยงการเกิดคีลอยด์ได้ไหม ? วันนี้แอดมินรวบรวมคำตอบมาให้แล้วค่ะ

👇🏻คลิกที่หัวข้อที่อยากรู้ได้เลย👇🏻

        การ ผ่าคลอด (Cesarean section) เป็นการผ่าตัดบริเวณหน้าท้อง เพื่อนำทารกในครรภ์ออกมาทางแผลผ่าตัดด้านหน้ามดลูก เป็นการผ่าตัดที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หากร่างกายของคุณแม่ปกติดี และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน โดยคุณหมอจะผ่าตัดเปิดเยื่อบุช่องท้องส่วนที่ติดกับมดลูก เพื่อผ่าเปิดมดลูก และนำทารกออกมา 

        บาดแผลจะมีรูปร่างและลักษณะต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น วิธีและวัสดุที่คุณหมอใช้เย็บแผล โดยทั่วไปแผลจะมีความยาว 4-6 นิ้ว ซึ่งจะเป็นแผลลักษณะแนวนอนตามแนวขอบกางเกงชั้นใน หรือแผลอีกแบบคือแผลลักษณะแนวตั้งใต้สะดือ ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการผ่าของคุณหมอค่ะ

        ปัญหาของแผลผ่าตัดคลอดที่พบได้บ่อยคือ แผลกลายเป็นรอยนูนแดง มีอาการเจ็บหรือคันและขยายจนมีขนาดใหญ่และ
นูนขึ้นเรื่อย ๆ แผลลักษณะนี้เรียกว่า คีลอยด์ (Keloid scar) ซึ่งแผลคีลอยด์ มักจะเป็นอุปสวรรคใหญ่ที่มาเข้ามาขัดใจความสวยของคุณแม่เสมอ

        การหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลเป็นคีลอยด์ คือต้องไม่ทำกิจกรรมที่เคลื่อนไหวมาก ๆ เช่น ยกของหนักหรือออกกำลังกายมากเกินไป จนทำให้แผลตึง เลือกทาน อาหารเสริมหลังผ่าคลอด ที่ช่วยสมานแผลที่ได้รับการอนุญาตจากคุณหมอ เมื่อแผลหายสนิทแต่เริ่มแข็งขึ้นนูนให้ใช้แผ่นซิลิโคนเจลซีทปิด  อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้คีลอยด์นุ่มขึ้นได้คือการนวดบริเวณแผล ด้วยการใช้
มอยเจอร์ไรเซอร์และโลชั่นมาช่วยนวดในทุกวันเช้า – เย็น

        หลังผ่าตัดคลอด แม่ ๆ ควรสังเกตดูแลสุขภาพร่างกาย ดูแลตัวเองหลังผ่าคลอด และดูแลแผลตั้งแต่วันแรก รวมถึงควรปฎิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีต่อตัวคุณแม่เองนะคะ

Centica Tips : ในกรณีที่เกิดคีลอยด์ไปแล้วก็สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด ฉีดยาสเตียรอยด์ ฉายแสงเลเซอร์ หรือการจี้ด้วยความเย็น ซึ่งต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนนะคะ

        แน่นอนว่าระยะเวลาในการสมานแผลของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน มาดูกันว่ามีสิ่งใดบ้างที่เป็นปัจจัยที่ทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ

    1. เคลื่อนไหวมากจนเกินไป การขยับออกแรงบ้างเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่หากมากจนเกินไปจะมีโอกาสทำให้แผลปริ และหายช้า
    2. ทานอาหารที่ส่งผลเสียต่อแผล เช่น อาหารหมักดอง อาหารทะเล รวมถึงแอลกอฮอล์
    3. ขาดวินัยในการดูแลแผล ลืมทำความความสะอาดและไม่ปฏิบัติตัวตามที่คุณหมอแนะนำ

        นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ในครอบครัวที่มีคนเป็นคีลอยด์ จะมีโอกาสทำให้แผลหายช้าและเกิดคีลอยด์ได้ง่ายกว่า ทั้งนี้ถ้าแผลหายช้าเกิน 3 สัปดาห์ขึ้นไป จะเพิ่มโอกาสการเกิดคีลอยด์สูงขึ้น แต่แอดมินเตรียมวิธีลดความเสี่ยงและรักษาแผลมาให้แล้วค่ะ อยากรู้เลื่อนลงไปอ่านต่อด้านล่างกันเลย

     1.ระยะอักเสบ  หลัง ผ่าคลอด ในระยะแรกให้ดูแลแผลตามที่คุณหมอสั่งอย่างเคร่งครัด คุณแม่สามารถเปลี่ยนอิริยาบถ
ง่าย ๆ คอยหมั่นพลิกตัวบ่อย ๆ หรือลุกขึ้นยืน พยายามลุกนั่งให้ได้ ถ้าทำได้เร็วจะช่วยให้ลำไส้กลับมาทำงานได้ไว และช่วยป้องกันท้องอืด ลดการเกิดพังผืดในช่องท้องอีกด้วย รวมถึงป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าท้องเคลื่อนไหวและมีเลือดมาเลี้ยงไหลเวียนได้ดี เมื่อผ่าตัดคลอดแล้วคุณแม่ปลอดภัยดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อน คุณลูกแข็งแรงสมบูรณ์ ก็สามารถกลับบ้านได้ในวันที่ 3 หรือวันที่ 4 หลังจากผ่าตัดคลอด และควรไปพบคุณหมอเพื่อตัดไหมหลังครบ
7 วัน ให้ตรงตามเวลานัดทุกครั้ง ต่อให้การผ่าตัดคลอดเย็บแผลด้วยไหมละลาย ไม่จำเป็นต้องกลับมาตัดไหม ก็ต้องเข้าไปพบคุณหมอเพื่อติดตามผลด้วยนะคะ

ข้อควรระวัง คือ แผลผ่าตัดคลอดไม่ควรโดนน้ำ คุณแม่ต้องระวังไม่ให้แผลโดนน้ำประมาณ 7 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ 

      2.ระยะสร้าง และซ่อมแซม ในระยะนี้คุณแม่ต้องหมั่นคอยสังเกตแผล และระมัดระวังบริเวณแผลเป็นอย่างมาก เพราะอยู่
ในช่วงที่แผลกำลังแห้ง และฟื้นตัว คุณแม่ควรทานอาหารบำรุงให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้แผลได้ซ่อมแซมเต็มที่ การนอนควรปรับ
หัวเตียงให้สูงขึ้น แผลที่หน้าท้องจะได้ไม่ตึงเกินไป เวลาลุกให้ใช้วิธีตะแคงตัวก่อน แล้วใช้มือค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นมา

     3.ระยะปรับสภาพ เป็นระยะที่แผลนั้นแห้งและปิดสนิทเกือบ 100% แล้ว คุณแม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับรอยแผล หมั่นนวดบริเวณแผลด้วยมือเปล่าในทุกวัน ในกรณีที่เป็นคีลอยด์ จะทำให้ยุบลงได้เร็วขึ้น

        หากคุณแม่สังเกตเห็นว่าแผลหายช้า หรือสังเกตเห็นความผิดปกติ หรือการติดเชื้อ ต้องรีบไปปรึกษาคุณหมอนะคะ

        หลังคลอดคุณแม่ควรจะรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ซึ่งสามารถรับประทานได้เกือบทุกอย่าง แต่อาหารกลุ่มที่คุณแม่ควรเน้นเป็นพิเศษ ได้แก่ อาหารกลุ่มโปรตีน อย่างเช่น เนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อปลา ซึ่งมีโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกายในการช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและสร้างเนื้อเยื่อ 

        นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารประเภทผักใบเขียวและผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอสุก ซึ่งผลไม้เหล่านี้มีวิตามินซีสูง จำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจน ที่มีส่วนช่วยให้แผลผ่าตัดหายไวขึ้นและป้องกันการเกิดแผลเป็นนั่นเอง จริง ๆ แล้วคุณแม่หลังคลอดสามารถเลือกทาน อาหารเสริมหลังผ่าคลอด ที่มีตัวช่วยเรื่องแผลได้ แต่ต้องอยู่ในความดูแลของคุณหมอนะคะ

        หลังจากที่รู้แล้วว่าคุณแม่ หลังผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง มาดูอาหารที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงกันบ้างนะคะ 
        โดยทั่วไปอาหารสำหรับคุณแม่หลังคลอดควรจะเป็นอาหารที่ย่อยง่าย และมีกากใยมาก เพื่อป้องกันอาการท้องผูก เนื่องจากในช่วงหลังคลอดระยะแรก ๆ ฮอร์โมนที่ทำให้ท้องผูกยังออกฤทธิ์อยู่ ประกอบกับในระยะนี้คุณแม่ไม่อยากใช้แรง
เบ่งอุจจาระเพราะกลัวเจ็บแผล ยิ่งทำให้มีโอกาสท้องผูกมากขึ้น 

มาดู 4 จำพวกอาหารสำหรับคุณแม่ที่มีแผล ผ่าคลอด ควรหลีกเลี่ยง

    1. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะว่าทำให้แผลหายช้าและอาจอักเสบได้
    2. อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เพราะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
    3. อาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ในบางกลุ่ม เช่น อาหารทะเล เพราะถ้าแพ้แล้วอาจตามมาด้วยตุ่มผื่นคัน ส่งผลเสีย
      ให้กับแผลผ่าตัดด้วย
    4. อาหารหมักดอง และอาหารรสจัด เพราะอาจส่งผลกับแผลผ่าตัดได้

        คุณแม่มือใหม่ รู้แบบนี้แล้ว ถึงเป็นของโปรดก็ต้องหลีกเลี่ยงนะคะ นอกจากจะได้กลับมาสวยไว ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์อีกด้วยค่ะ

        คุณแม่หลายคนคงสงสัยว่าจริงหรือไม่ที่แม่ให้นมลูก “ห้ามทานวิตามินหรืออาหารเสริม ” ?
        ความจริงแล้วช่วงหลังคลอดและให้นมลูก คุณแม่ต้องการสารอาหาร วิตามิน และ แร่ธาตุบางอย่างเพิ่มขึ้นกว่าปกติ
หากรับประทานหรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ กินอาหารไม่ครบหมู่ ก็สามารถเสริมวิตามินที่จำเป็นร่วมด้วยได้ แต่ก่อน
รับประทานวิตามิน ยา หรือ อาหารเสริมใด ๆ ในขณะที่ให้นมอยู่ อย่าลืมที่จะปรึกษาคุณหมอที่ดูแลคุณแม่อยู่ก่อนนะคะ

        จากที่บอกไปในหัวข้อที่แล้วว่าการรับประทานวิตามิน ยา หรือ อาหารเสริมหลังผ่าคลอด ของคุณแม่ที่ให้นมอยู่นั้น ควรที่จะปรึกษาคุณหมอก่อน ซึ่ง Centica เป็นอาหารเสริมที่เหมาะกับคุณแม่ ผ่าคลอด  เพราะมีสรรพคุณที่ช่วยลดการบวม ช้ำ และสมานแผล ที่สำคัญคือลดโอกาสการเกิดแผลเป็น นูน หรือคีลอยด์ได้ด้วย ปลอดภัยกับคุณแม่ที่ให้นมลูกเพราะว่า Centica เป็น
อาหารเสริมที่วิจัยคิดค้นโดยคุณหมอ เต็มไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น 

    • Bromelain เป็นเอนไซม์ที่มาจากสับปะรด มีส่วนช่วยเรื่องลดอาการบวมช้ำ และสมานแผลได้อย่างดีเยี่ยมและนอกจากนี้โบรมีเลนยังช่วยลดอาการอักเสบของแผลผ่าตัดได้ดี
    • Bilberry สารสกัดจากลูกบิลเบอร์รี่ถึงลูกจะเล็ก แต่สรรพคุณไม่เล็กเหมือนชื่อเพราะมีสารต้านอนูมูลอิสระและสรรพคุณเยอะมาก แถมช่วยลดอาการอักเสบของแผลได้ดีเยี่ยม 
    • ใบบัวบก สรรพคุณลดอาการบวม และช่วยสมานแผลให้หายเร็วมากขึ้นเพราะกรด Madecassic และ Asiatic เป็น
      ตัวช่วยหลักในใบบัวบกที่ทำให้แผลหลังผ่าตัดสมานไวขึ้น 
    • ว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้มีสารโพลียูโรไนด์ และ โพลีแซคคาไรด์ สารที่สามารถลดการอักเสบของแผลให้หายเร็วขึ้นและช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
    • Ascorbic acid กรดตัวนี้จะช่วยต้านสารอนุมูลอิสระแล้วยังส่งผลด้านการสร้างคอลลาเจนอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นจะช่วยให้เนื้อเยื่อของร่างกายประสานตัวได้เร็ว เพิ่มความกระจ่างใส และทำให้ลดการเกิดแผลเป็น หลังจากที่ผ่าตัด ให้แผลสมานไวขึ้น 
    • Zinc เป็นตัวที่คอยซ่อมบำรุงร่างกายในระบบเอนไซม์และเซลล์ต่าง ๆ ช่วยให้เกล็ดเลือดทำงานได้ดี แถมยังมีฤทธิ์ที่ช่วยลดบวม ลดการอักเสบของแผลได้ด้วย นอกจากจะช่วยเรื่องแผลแล้วยังช่วยให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายของเราให้ดีขึ้น

        ซึ่งด้วยสารสกัดจากธรรมชาติเหล่านี้จึงรับรองว่าปลอดภัยต่อคุณแม่ที่กำลังให้นมลูกแน่นอนค่ะ รับรองกลับมาสวยเร็วทันใจ จนใคร ๆ ถึงกับงงว่าพึ่งคลอดมาจริงหรือเปล่า 

        Centica ไม่ได้สามารถช่วยแค่เรื่องแผลผ่าตัดคลอดเพียงเท่านั้น แต่ยังช่วยลดอาการบวม ช้ำ หลังการทำศัลยกรรมได้อีกด้วย หลังคลอดแล้วถ้าคุณแม่มีแพลนหรือต้องการทำสวยเพิ่มเติม แอดมินแนะนำให้ซื้อตุนเผื่อไว้ได้เลยค่ะ สำหรับคุณแม่อยากทราบว่าระยะเวลาเท่าไหร่ถึงทำศัลยกรรมได้ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ บทความ “ศัลยกรรม ระยะเวลาเท่าไหร่ถึงปลอดภัย ไขข้อข้องใจให้คุณแม่ลูกอ่อน?” 

        แผล ผ่าคลอด เป็นแผลที่ต้องได้รับการดูแลตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพื่อที่จะลดภาวะการอักเสบของแผล และคุณแม่ควรตรวจเช็กแผลอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พร้อมกับการทานวิตามินหรือ อาหารเสริมหลังผ่าคลอด ที่ได้รับการอนุญาตจากคุณหมอ เพื่อให้แผลหายไวขึ้น และไม่ทิ้งรอย แผลเป็น ที่จะสร้างความกวนใจในภายหลังนะคะ